La Réunion, April 2018 – So much fun and chill on this island

At first when we decided to go for La Réunion Island, which is part of France but situated between Mauritius and Madagascar in African region, all of my friends including me never recognize or heard of this name before. So why do I came up with this destination, it is because April in Thailand is such a peak period and all direct flights from Bangkok to any main countries are quite costly, except this one. I started to explore and found that this island is amazing and not much people have been travelling there, thus at that moment I believed La Réunion would be one-of-a-kind destination.

Then, I invited some of my friends to join in small group and had a great experience together at La Réunion. In doing so, our trip was fulfilled with all kind of fun activities including hiking both on the mountain and (still) active volcano, helicopter boarding, scuba diving, swimming in waterfall, café hopping, road tripping, and chillaxing on the beach and inside our accommodation. To sum up, I enjoyed it very much and local people here are so nice and firm. One thing not to forget mentioning is that wine is super cheap starting from 2 Euro and you could find great ones from 10 Euro towards to make trip even more pleasant.

La Réunion แท้จริงแล้ว ไม่ใช่ประเทศ แต่เป็นเมืองหรือเกาะของประเทศฝรั่งเศส

La Réunion เป็นเมืองที่อยู่ห่างจากประเทศฝรั่งเศสมากที่สุด โดยตั้งอยู่ในทวีป Africa ซึ่งอยู่ระหว่าง Mauritius กับ Madagascar ที่น่าสนใจ คือ ผู้คนที่นี่น่ารัก ชิว ใจดี และหุ่นดี แถมพวกเค้าชอบมาประเทศไทยตลอด เพื่อช็อปปิ้งอยู่แล้วเป็นประจำด้วยนะ

La Réunion เป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวครบครัน ไม่ว่าจะเป็นภูเขา (และภูเขาไฟที่ Active มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก) นั่งชิวริมทะเล ดำน้ำ ขึ้น Helicopter เล่นน้ำตก หรือ แม้แต่ café hopping และอีกอย่างที่พลาดไม่ได้ คือ ไวน์ที่นี่ถูกมาก ราคาเริ่มต้น ประมาณ 2 Euro เอง แต่ถ้าอยากได้นุ่มหน่อย ก็สามารถยอมจ่ายแพงขึ้นอีก 10 Euro

ในตอนแรกที่เราจะไปเที่ยวทริปนี้ มีเพื่อนมากมายเข้ามาถามเราว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา

เราเลยบอกเค้าไปว่าเรากำลังจะไป “รี-ยู-เนี่ยน” ซึ่งเป็นการเรียกกันแบบง่ายๆ ตามคนไทย แต่เพื่อนมักจะถามต่อว่าไป รียูเนี่ยนกับใคร แล้วจุดหมายปลายทางคือที่ไหน

เราเลยบอกเค้าไปใหม่ว่าเราไป “เร-อู-นี-ยง” ซึ่งเป็นการอ่านออกเสียงที่ถูกต้องตามสไตล์ภาษาฝรั่งเศส แต่สุดท้ายเพื่อนทุกคนก็จะงงงวยและถามว่ามันคือที่แห่งใด

นี่เป็นที่มาที่เราอยากจะแบ่งปันรายละเอียดทั้งหมดโดยคร่าวของทริป “รี-ยู-เนี่ยน” นี้ จุดหมายปลายทางที่น้อยคนจะรู้จักและเคยไปท่องเที่ยวบนเกาะที่มีความมหัศจรรย์แห่งหนึ่งในโลกใบนี้

Total budget for 7 days journey

In total, we used approximately 65K Baht per person for the whole trip containing return flight from Bangkok to La Réunion (25-30K Baht), Helicopter around island for 40 minutes (10K Baht), Scuba diving (2.5K Baht per 1 dive), whilst the rest are accommodation, car rental, and food and beverage for our entertainment. I would say this journey is worth in terms of expenditure and experience.

La Réunion ค่าใช้จ่ายทริปนี้ เราไป 7 วัน ตกคนละประมาณ 60,000 หน่อยๆ แยกมาเป็นตั๋วเครื่องบิน 25,000-30,000 บาท ค่า Helicopter ประมาณ 10,000 บาท ค่าดำน้ำ ประมาณ 2,000-2,500 บาทต่อ 1 Dive ที่เหลือก็เป็นค่าโรงแรม ค่าเช่ารถ สรุปง่ายๆ คือได้เที่ยวครบทุกแบบในราคาเท่านี้ ถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

Brief Itinerary

DAY 1 – Road trip from St. Denis to Cap Noir

DAY 2 – Trekking to Mafete (need more 1 day if you want to reach at the end of destination)

DAY 3 – Helicopter, St. Paul Market, and picnic at Boucan Canot

DAY 4 – Chill and picnic at beach, La Saline-Les-Bains and Ermitage

DAY 5 – Scuba diving and take a rest at waterfall

DAY 6 – Trekking to Piton de la Fournaise, one of the most active volcano in the world

DAY 7 – Enjoy Salazie and Hell-Bourg area

It is always fascinating when we get lost, opening us to the whole new experience.

เสน่ห์ของการไปเที่ยวเป็นกลุ่ม คือ “พากันไปหลง”

เราชอบทริปนี้มากจึงอยากมาแบ่งปันกัน โดยทุกครั้งที่เราไปเที่ยว รวมถึงทริปนี้ เราวางแผนทุกครั้ง แต่เราจะวางไม่ให้แน่นเกินไป เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้พบเจออะไรใหม่ๆ

อย่างครั้งนี้ที่เราไป เราไปเที่ยวกัน ซึ่งเพียงแค่วันที่สองในการเดินเขา เรากลับต้องใช้ระยะเวลาในการเดินมากกว่าที่ดูใน Google Maps ประมาณ 2 เท่า ในขณะที่เราหลงไปบ้าง กลับได้พบเจอและพูดคุยกับคน Local (คนท้องถิ่น) แบบรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เราได้แอบกินน้ำในลำธาร เพราะน้ำที่เราเอาไปหมดเสียก่อนแล้ว และเรายังได้เอาน้ำแร่ขึ้นมาฉีดหน้า เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับพวกเรา เกิดเป็นความทรงจำดีๆ ในการไปเที่ยวอีกครั้ง

We enjoyed local food so much, but much more than that we enjoyed our friends’ cooking in the moment of chillaxing inside our housing.

ความสนุกของการไปเที่ยวเป็นกลุ่ม คือ “ได้กินอาหารที่เพื่อนทำ มากกว่า อาหาร Local”

ความตลกและสนุกสนาน คือจริงๆ เราไปกินอาหาร Local ไม่ได้น้อยเลยนะ เรากินทั้งอาหารคาว อย่าง Beef Tartare หรือผู้พันไก่ Africa เรากินทั้งขนมปังพื้นเมือง ที่มีความหนากว่า Scone อีก เรากินทั้งของหวาน แบบไอศกรีมรถเข็น

แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเราไม่เหลือพื้นที่ให้กับการโชว์ฝีมือทำอาหารของเพื่อน เพราะมันเป็นการสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขเล็กๆ ให้กับเราและเพื่อนๆ ในทริปของพวกเรา ที่สำคัญ มันทำให้เราได้ตามหา Supermarket ทุกวัน อย่างไม่ย่อท้อ และได้พบว่า Supermarket เค้าปิดกันตั้งแต่เที่ยงในวันอาทิตย์ แต่เราก็ยังพยายามต่อไป ถึงแม้จะล้มเหลวในท้ายที่สุดก็ตาม

ขอแอบบอกว่าโรงแรมที่นี่ชิวมาก และมีครัวให้เพื่อนเราโชว์ฝีมือ เหมือนเป็นบ้านพักของตัวเองเลย ใครสนใจไปเที่ยว แล้วอยากไปนอนโรงแรมดีดีแบบนี้ เราช่วยแนะนำได้นะว่าตรงไหนดีและน่าพักผ่อน

Enjoy and act like local is unusual. Believe me it is worthy.

“การออกไปสัมผัสความ Local ที่แท้ทรู”

เราแอบดูและทำตามคน Local ทุกอย่างที่จะสามารถทำได้ เราซื้อและหิ้วตะกร้าไปนอนชิวริมชายหาด ไปกระโดดเล่นน้ำ เราเดินป่าในทางที่คน Local ทำ ไม่ใช่เส้นทางของนักท่องเที่ยว เราไปแย่งคน Local ซื้อไอติม เราไปถามคน Local ว่ามีอาหารพื้นเมืองอะไรน่าสนใจ แล้วลองกินดูแต่ไม่ถูกปากบ้างก็มี แต่นี่ก็ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งในการไปเที่ยวสไตล์เรา

We do love beach in La Réunion as we felt like we are in James Bond movie, having an extraordinary moment at Bahamas.

“ที่นี่เหมือน Bahamas”

เรามานั่งชิวที่ชายหาดเกือบทุกวัน เรานั่งคุยกัน และมีความรู้สึกว่าบรรยากาศที่นี่ไม่ได้ต่างอะไรจาก Bahamas ที่ถึงแม้พวกเราจะไม่เคยไป แต่ก็สัมผัสได้ เหมือนที่เพื่อนคนนึงได้กล่าวไว้ว่า “ที่ที่เรานั่งอยู่ มันช่างเหมือนกับฉากในภาพยนตร์มหากาพย์ 007 James Bond เสียนี่กระไร”

Camera man is very indispensable in every trip we go.

“ตากล้องประจำทริป”

ที่ขาดไม่ได้เลย คือ การไปเที่ยวแล้วมีรูปที่สวยสดงดงาม เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เราไปเที่ยวกับ TRAVEL BOX เราจึงจำเป็นเสมอที่จะต้องชักชวนเพื่อนรู้ใจที่เป็นตากล้อง ซึ่งพอดีเรารู้จักตากล้องจาก @BAANbystudioroom เลยสบายไปเลยได้รูปสวยๆ มาครอบครองไว้เต็มไปหมด ส่วนตากล้องเอง ก็น่าสงสารเพราะมักจะไม่มีรูปเป็นของตัวเองอยู่แล้ว

Trekking in La Réunion is quite exceptional.

“ประสบการณ์ในการ Trek (เดินเขา)”

ที่ La Réunion ถือเป็นเกาะที่มีเส้นทางในการ Trek เยอะที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ สาเหตุหลักคงเป็นเพราะที่แห่งนี้ ธรรมชาติยังสวยงามและ Virgin อยู่มากๆ โดยที่เหมือนกับการ Trek ทั่วไป คือ เราสามารถเลือกได้เช่นกันว่าจะไปเส้นที่ยากหรือง่าย แล้วแต่ระดับที่เราต้องการ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ระยะทางและระดับความยาก-ง่าย เป็นการบ่งชี้ให้กับกลุ่มคนที่เดินเป็นประจำ จึงไม่สามารถใช้มาเทียบเคียงกับเราได้ในบางครั้ง โดยเฉพาะครั้งนี้ที่เราไปเดิน

แต่ประสบการณ์ที่ได้มาและไม่เหมือนใครจากการเดิน Trek ที่ La Réunion คือ เราได้พบเจอเพื่อนเราเองนั่งหลับกลางป่าเป็นครั้งแรกในชีวิต โดยเราใช้ระยะเวลาในการเดินนานกว่าปกติไปหน่อย จนต้องเติมพลังงานด้วยการ Power Nap ในป่า

Do not believe anything only half of what you see.

“ลำธารที่เราลงไปดื่มน้ำแสนสดชื่น”

ตอนที่เราถ่ายรูปนี้ เรานึกว่าการเดินลงไปเพื่อถึงจุดหมาย ซึ่งคาดหวังไว้ว่าจะเป็นร้านขายอาหาร มันช่างดูใกล้เคียงเสียเหลือเกิน แต่แท้จริงแล้ว เราใช้เวลาอีกเกือบชั่วโมง และที่สำคัญยังไม่ถึงโซนบริเวณที่มีร้านอาหารเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายพวกเราเลยได้ดื่มน้ำจากลำธารเพื่อประทังตัวเองเป็นครั้งแรกในชีวิต

Hiking to Piton de la Fournaise, one of active volcano in the world, is a must thing to do in our lifetime.

“ระหว่างทางเดินขึ้นปากปล่องภูเขาไฟ”

การเดินขึ้นไปปากปล่องภูเขาไฟ จะต้องเริ่มเดินแต่เช้าไม่เกิน 6 โมงเช้า สาเหตุหลัก คือระหว่างทางจะไม่มีต้นไม้มาเป็นร่มเงา ซึ่งไม่เหมือนการ Trek ทั่วไป โดยเส้นทาง Piton de la Fournaise ใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง ถ้าเราออกเดินช้าเกินไป อาจจะโดนแดดเผาได้เลยในช่วงระหว่างขากลับ ที่น่าสนใจ คือ คนที่นี่เล่าให้ฟังว่าสามารถเดินไปดูตอนภูเขาไฟเริ่มปะทุเป็นสีแดงๆ ได้ แต่ต้องเดินตอนกลางคืนเท่านั้น ซึ่งควรจะมีคน Local พาไป เพื่อชมความสวยงามในอีกรูปแบบหนึ่ง

Little tiny cute tree.

“ต้นไม้จิ๋วที่เกิดขึ้นตามหินที่เป็นแนวลาวาของภูเขาไฟ”

ยังคงเป็นที่สงสัยเสมอหลังจากกลับมาจากทริป ว่าต้นไม้เหล่านี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไรภายใต้สภาพแวดล้อมที่ภูเขาไฟยังคง Active อยู่ รู้เพียงอย่างเดียวว่ามันสวยดี และมีเสน่ห์น่าค้นหา

One of the coolest diving site.

“สวรรค์ของนักดำน้ำ”

ที่ La Réunion มีชื่อเสียงในการไปดำน้ำอยู่เหมือนกัน เพราะมักจะมีสัตว์โลกหน้าตาน่ารักไม่เหมือนใครแอบหลบซ่อนอยู่

Waterfall time.

“ความสบายที่น้ำตก”

ความสบายของการแช่น้ำที่เย็นระดับกำลังสบาย และสามารถว่ายไปอยู่ใต้น้ำตกได้ (สำหรับคนที่ว่ายน้ำเป็น) เพื่อไปรับน้ำตกที่หล่นลงมาจากที่สูงให้เย็นสบายหัว ถือว่าชิวไม่เบาเลย

Beach life.

“วันสบายสบายริมชายหาด”

บางครั้งการไปเที่ยวแบบนอนเล่นริมชายหาด ไปพักผ่อนสบายสบาย ไม่ต้องคิดถึงอะไร ไม่ต้องเที่ยวหนักเกินไป เพียงเท่านี้ก็เป็นการเติมเต็มให้เราพร้อมกลับมาใช้ชีวิตต่ออย่างมีแรงอันมหาศาลแล้ว

Sunset here will never be boring.

“พระอาทิตย์ตกที่นี่ไม่ธรรมดา”

พระอาทิตย์ตกที่ La Réunion ไม่ว่าจะนั่งดูริมทะเล หรือผ่านวิวภูเขา เราขอยืนยันว่าเป็นที่นึงในโลกนี้เลย ที่มีวิว
พระอาทิตย์ตกและขึ้น ที่มองได้ทุกวันไม่มีเบื่อ จนอยากจะหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึกทุกครั้ง

Our journey is never completed without picnic.

“สถานที่แห่งการ Picnic”

หากจะหาสถานที่ลมเย็น มีแดดให้นอนตากและรับวิตามินดีบ้าง พร้อมได้ Picnic ไปด้วยในตัว ที่นี่คงเป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การมาพักผ่อนแบบนี้มากที่สุดแห่งหนึ่งเลย

Life is better at the beach when we have beer in our hands.

“ชายหาดกับเครื่องดื่ม คู่กันที่ลงตัว”

เวลาเย็นๆ จะได้พบเจอกับความชิว และการได้ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจ พร้อมนั่งมองผู้คนเล่นกีฬา และวิ่งเล่นไปเรื่อยๆ จนแสงธรรมชาติหมดไป แค่นี้มันก็เป็นภาพที่สุดแสนประทับใจแบบเรียบง่ายดีแล้ว

เพิ่มเติมความรู้รอบตัว สัญลักษณ์ของเครื่องดื่มที่นี่ จะใช้นก Bourbon ซึ่งอดีตเคยมีอยู่ทั่วเกาะ แต่ปัจจุบันถูกคาดการณ์ว่าสูญพันธ์ไปแล้ว โดยชื่อ Bourbon เป็นชื่อแรกที่ถูกตั้งขึ้นให้กับเกาะแห่งนี้ แต่ถูกเปลี่ยนชื่อในปี 1793 เป็น La Réunion จวบจนปัจจุบัน

Blend in with local and back to be kids again.

ภาพของความอยากกินไอติม กับการวิ่งกรูมาของเด็ก Local เมื่อได้ยินเสียงเพลงจากรถขายไอติม ไม่ต่างอะไรจากสมัยที่เรายังเป็นเด็ก และการไปเที่ยว ณ สถานที่แห่งนี้ ได้พาให้เรากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง