This was my first time visiting Nan, one of the most peaceful province with Lanna Culture. I intended to travel here during rainy season as I believed it would fulfill my dream without crowded tourists but with locals instead. However, what I found was more than expected. Thus I would like to whisper that this period of time was so beautiful and tranquil, whilst locals are so nice in their different way, for example, some locals always help me with no expectation and some would demonstrate their interesting stories to help me understand their culture thoroughly.
จังหวัด ‘น่าน’ เป็นหนึ่งในจังหวัดของประเทศไทย ที่มีวัฒนธรรมและธรรมชาติปะปนกันอยู่อย่างงดงาม และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ไปเยือนจังหวัดแห่งนี้หลังจากเฝ้ารอมานาน ด้วยความที่ก่อนหน้านี้ น่านยังเป็นจังหวัดที่เงียบสงบ และนักท่องเที่ยวค่อนข้างน้อย ต่างจากในปัจจุบัน ที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นี่จึงเป็นที่มาของทริปนี้ที่เราเลือกจะไปสัมผัสบรรยากาศหน้าฝนของจังหวัดน่านแทน ซึ่งต้องขอแอบกระซิบมา ณ ที่นี้ว่าเป็นช่วงเวลาที่แสนสบาย ถือเป็นการท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ ในระดับที่คุณจะได้เจอแต่คนท้องถิ่นเท่านั้น
In my perception, Nan can be divided into three main areas which are north, central, and south area. For my 5-days trip, I had a chance to travel all from Doi Samer Dao in the south, having local pan fried barbecue amid fog on the mountain, to the northern part which slow life is the right word to express. Everywhere I went was impressive and relaxed, even in the main town all destinations are cool not just limited to nature but also included café, temple, night market, art museum, and local libraries.
This is a secret I would like to share with you but it would take whole day, which I suggest you need to experience it yourself. Hence, please have a skimming through this story and I will be very happy to help you figure out should you have any queries at any time.
Note: Please be careful and take it slow if you would like to have a valuable and happy time driving in Nan during rainy season.
จังหวัด ‘น่าน’ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน หลักๆ คือ ตอนบน ตอนล่าง และตอนกลาง ซึ่งก็คือตัวเมืองนั่นเอง ทริปนี้เราใช้เวลา 5 วัน เดินทางครบทั้งจังหวัด เราได้มีโอกาสแวะไปดอยเสมอดาว เพื่อสัมผัสบรรยากาศหนาวเล็กน้อย และใช้เวลาอันแสนสุขกับหมูกระทะ เราได้มีโอกาสแวะไปอำเภอบ่อเกลือ อำเภอสปัน และอำเภอปัว ที่ที่มีแต่ความ slow life และเราได้เที่ยวในตัวเมืองน่าน ซึ่งมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเต็มไปหมด ทั้งที่เป็นร้านกาแฟ วัดวาอาราม ตลาดกลางคืน และที่นั่งชิวเอาไว้ชมธรรมชาติ เรียกได้ว่าเป็นการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง
แต่เวลาไปช่วงหน้าฝน การขับรถควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง และค่อยๆ ไปอย่างช้าๆ ใช้เวลากับความสุขที่แสนมีค่าให้นานเท่านาน
Total budget for 5 days journey
For 2 PAX, around 7-8k THB per person will cover all required expenses including round-trip flight from BKK-Nan, car rental, accommodation for 4 nights, food and beverage including local coffee, and shopping. I do love shopping local silk scarf as each one is uniquely hand-made produced within the concept of journey from Lanna period til now. So this vacation was fabulous and memorable, and I will re-visit to this province to take a full rest again one day.
การไปน่านครั้งนี้ เราไปกัน 2 คน เสียค่าใช้จ่ายไปประมาณ 7-8 พันบาทต่อคน รวมตั๋วเครื่องบิน 3,000 บาท ค่าเช่ารถเกือบ 2,000 บาท ค่าโรงแรม 1,000 กว่าบาท สำหรับ 4 คืน ที่เหลือเป็นค่าอาหาร และค่ากาแฟที่ต้องดื่มทุกวัน เพื่อความสบายในการไปเที่ยวแต่ละวัน และหากคุณช็อปปิ้งพวกผ้าไหมสไตล์ล้านนา ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในส่วนนี้หน่อย แต่ขอบอกเลยว่าการทักถอผ้าไหมแต่ละผืน ลวดลายจะแตกต่างกันทั้งหมด แต่คงภายใต้ Concept ของการเดินทางของคนพื้นเมือง ที่เป็นเรื่องราว จากสมัยล้านนา จวบจนถึงปัจจุบัน หนึ่งในพิกัดที่ดี คงจะหนีไม่พ้นหลังวัดภูเก็ต สามารถเดินลงบันไดไปเจอร้านผ้าไหมลับๆ ได้ เอาไว้ซื้อใช้เอง หรือเป็นของฝาก ก็เก๋ไม่เบา สรุปแล้วการเที่ยวครั้งนี้ ดีมาก ไม่เจอคนเยอะ ทำให้เราได้เที่ยวอย่างเต็มที่ สูดอากาศหายใจได้เต็มปอด และได้พักผ่อนแบบสบายจริงๆ
Brief Itinerary
DAY 1 – Refresh with café in town and drive to southern part, Doi Samer Dao
DAY 2 – Enjoy mountain area in the morning, then drive to stop by local house in town, and go up to northern area, Sapun, Pua, and Borklua area
DAY 3 – Take slow life in Pua area and back in town in the evening
DAY 4 – Relax with café hopping, night market, temple, and local libraries in town
DAY 5 – Take a rest in the resort and end trip with local porridge